ปัจจุบันมีผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาร่างกายให้ดูดี สวยงามและมีสุขภาพที่ดีกันมากขึ้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับการดูแลความสวย ความงามและสุขภาพ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในสังคม นอกจากนี้ผู้ชายก็เป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทยต้องเร่งพัฒนาเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วย เพราะมูลค่าการส่งออกด้านเวชสำอางในประชาชนกลุ่มนี้มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในด้านธุรกิจความงามจึงเป็นสิ่งที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยขึ้นได้
เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง ได้แก่ วัฒนธรรมไทย ที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงไทยรักสวยรักงามและการตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามของอาเซียน ทำให้มองว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ก่อนจะแพร่ขยายความนิยมออกไปสู่ประเทศต่างๆในประชาคมอาเซียนและก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง การที่จะลงทุนทำธุรกิจด้านสุขภาพและความงามนั้น ควรจะทำความรู้จักในส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อน สำหรับสินค้าเพื่อความสวยความงามสามารถแบ่งได้ดังนี้
1.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทเวชภัณฑ์ความงาม เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าป้องกันสิว ฝ้า กระ ลดเลือนริ้วรอย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ผลิตภัณฑ์เพื่อหุ่นเพรียวสวย และอื่นๆ
2.กลุ่มผลิตภัณฑ์สปา เป็นประเภทผ่อนคลายผิว เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์สำหรับนวด ผลิตภัณฑ์สำหรับพอก ผลิตภัณฑ์สำหรับขัด
3.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับคนรักสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนัก
การทำธุรกิจความงามจะขึ้นอยู่กับงบประมาณการลงทุนเพราะหากมีงบประมาณจำกัด อาจจะสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้ แต่ถ้ามีงบประมาณจะสร้างแบรนด์ของตัวเองก็ได้ สำหรับผู้ที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว อย่างเช่น ร้านเสริมสวย สปา ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์เข้าร้าน ควรพิจารณาก่อนว่ากำลังดำเนินธุรกิจในรูปแบบไหน
จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจด้านสุขภาพและความงามนั้นเป็นการสร้างโอกาสให้ตนเองเพราะหากสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดแล้วก็จะสามารถสร้างรายได้ ได้อย่างมากมาย นอกจากนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยก็จะดีขึ้นอีกด้วยเพราะหากแบรนด์สินค้ามีชื่อเสียงก็จะมีการสั่งซื้อและจะทำให้เศรษฐกิจมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น